ขบวนการนักสู้ หรือ ซูเปอร์เซ็นไท (ญี่ปุ่น: スーパー戦隊 Sūpā Sentai )  ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง กลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือคำว่า ขบวนการ ในภาษาไทยนั่นเอง ถือกำเนิดขึ้นจากปลายปากกาของ อ.อิชิโนโมริ โชทาโร่ คนเดียวกันกับที่ให้กำเนิด คาเมนไรเดอร์ นั่นเองคำว่า "ซูเปอร์เซนไท" นี้จะกล่าวถึงเฉพาะภาพยนตร์ที่สร้างโดยบริษัท โตเอะ และสปอนเชอร์หลัก บันได ซึ่งเป็นสปอนเชอร์เดียวกันกับ คาเมนไรเดอร์(มาสค์ไรเดอร์ ซีรีส์)และ เมทัลฮีโร่(ซีรีส์ตำรวจอวกาศ)แพร่ภาพโดย บริษัททีวีอาซาฮี

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปรากฏการณ์ต่างๆ ในซูเปอร์เซนไท


ในทุกๆเรื่อง มักจะมีปรากฏการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอ ทั้งสิ่งนำเสนอที่ใหม่ หรือแม้แต่การทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้
ชื่อเรื่องปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
Gorangerการปรากฏตัวครั้งแรกของนักรบ สีแดง, สีน้ำเงิน, สีเหลือง, สีชมพู และสีเขียว
มีจำนวนตอนมากที่สุด
มีการเปลี่ยนตัวนักรบและเปลี่ยนพาหนะที่ใช้ในเรื่อง
เป็นเรื่องแรกที่มีท่าไม้ตายเป็นระเบิดในคราบลูกบอล
เป็นเรื่องแรกที่มีภาคหนังโรง (The Movie) และมีจำนวนตอนของภาคหนังโรงมากที่สุด
JAKQการปรากฏตัวครั้งแรกของนักรบสีขาว
มีจำนวนตอนที่สั้นที่สุด
เริ่มเรื่องด้วยนักรบเพียง 4 คน และภายหลังมีคนที่ 5 มาช่วย
มีการนำปืนใหญ่มาใช้เป็นครั้งแรก
มีพาหนะที่เป็นแบบเฉพาะสำหรับนักรบทุกคน
ชุดของนักรบหญิงเป็นแบบที่สวมกระโปรงทับกางเกง
มีการ Crossover กับขบวนการก่อนหน้า (และไม่มีปรากฏอีกจนกระทั่งถึงเรื่อง โอเรนเจอร์)
Battle Fever Jการปรากฏตัวครั้งแรกของนักรบ สีส้ม และ สีดำ (แต่สีดำ ตอนนั้นยังไม่ได้รับการยอมรับ จึงใช้สีเขียว แทน)
มีการใช้หุ่นยนต์ยักษ์ในการต่อสู้กับศัตรูขนาดใหญ่
เกิดมาตรฐานจำนวนตอนที่ฉายและความสูงของหุ่น ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน
เป็นครั้งแรกที่ใช้ท่าไม้ตายกำจัดศัตรูตัวเล็กด้วยบูมเมอแรง
เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดี่ยวที่มีการเปลี่ยนตัวนักรบมากที่สุด
ชุดของนักรบหญิงเป็นชุดว่ายน้ำเน้นให้เห็นสัดส่วน
Denjimanเป็นเรื่องแรกที่ชื่อขบวนการ เป็นคำว่า "Man"
มีหุ่นยนต์ยักษ์ที่เกิดจากการเปลี่ยนร่าง
มีอาวุธประจำตัวของทุกคนเป็นหมัดเหล็ก นอกเหนือจากมีดสั้น/ปืนพก
Sunvalcanเป็นเรื่องแรกที่มีหุ่นที่เกิดจากการรวมร่าง เป็นครั้งแรก
เป็นเรื่องแรกที่มีเพียงแค่ 3 คน จนจบเรื่อง
มีการเชื่อมโยงเหตุการณ์จากเซนไทรุ่นก่อน มาใช้ในการดำเนินเนื้อเรื่องภาคทีวี
Goggle Vเป็นเรื่องแรกที่ชื่อขบวนการ เป็นคำว่า "Five"
เป็นเรื่องแรกที่นำอาวุธหลัก (จำพวกปืนหรือดาบพก) มารวมเป็นอาวุธพิฆาตได้
Dynamanเป็นเรื่องแรกที่ท่าไม้ตายเป็น "การใช้พลังในร่างกายเป็นท่าไม้ตาย" แทนที่จะเป็นการใช้ปืนใหญ่จัดการ
เป็นเรื่องแรกที่ใช้เกราะพาวเวอร์อัพ (ใช้แค่ตอนเดียว)
Biomanเป็นเรื่องแรกที่มีนักรบหญิงถึง 2 คนด้วยกัน
เป็นเรื่องแรกที่มีการเปลี่ยนนักรบได้เร็วกว่าเรื่องอื่นๆ
เป็นเรื่องแรกที่ผู้หญิงเป็นสีเหลือง (ที่ผ่านมามักจะเป็นสีชมพู เพียงสีเดียว)
เป็นเรื่องแรกที่มีมอเตอร์ไซต์ให้ผู้หญิงขับขี่
Changemanเป็นเรื่องแรกที่ปืนใหญ่เกิดจากการรวมอาวุธของทั้ง 5 คน
เป็นเรื่องแรกที่ผู้หญิงเป็นสีขาว
Flashmanมีหุ่นยนต์ตัวที่ 2 โผล่ออกมา
เป็นเรื่องแรกที่ตอนจบ เหล่านักสู้ไม่ได้อยู่บนโลกได้อีกต่อไป
Maskmanเป็นเรื่องแรกที่มีปืนใหญ่ถึง 2 กระบอก
เป็นเรื่องแรกที่มีนักรบคนที่ 6 โผล่ออกมาช่วยรบ (เพียงตอนเดียว)
Livemanเป็นเรื่องแรกที่นำเอาหุ่นยนต์ตัวที่ 1 และ 2 มารวมร่างกัน จนเกิดหุ่นยนต์รวมร่างครั้งใหญ่
เป็นเรื่องแรกที่ผู้หญิงเป็นสีน้ำเงิน
เรื่องนี้เป็นการครบรอบ 10 ปีขบวนการนักสู้ (นับจากแบทเทิลฟีเวอร์ เจ ถึง ไลฟ์แมน) และยังไม่มีการบรรจุโกเรนเจอร์ และแจ็คเกอร์เข้ามาเป็นขบวนการนักสู้
Turborangerเป็นเรื่องแรกที่นำเอาหุ่นยนต์รวมร่าง (1 กับ 2) มารวมร่างกับฐานทัพลับ
เป็นเรื่องแรกที่มีตอนพิเศษของเซนไตโดยใช้ชื่อตอนว่า 10 Super Sentai Hero
เป็นเรื่องแรกที่เนื้อหาของเรื่อง เริ่มต้นในตอนที่2 (โดยตอนที่1 ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักแต่อย่างใด)
Fivemanเป็นเรื่องแรกที่ใช้คอนเซ็ปท์ "นักรบพี่น้อง"
เป็นเรื่องแรกที่มีการสวมเกราะเพิ่มพลังให้แก่นักรบทั้ง5
เป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ตัวที่ 1 สูงไม่ถึง 40 เมตร
เป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ขนาดเล็ก (หุ่นผู้ช่วย) สามารถเปลี่ยนเป็นปืนใหญ่ได้
Jetmanเป็นเรื่องแรกที่มีหุ่นยนต์ตัวแรก สามารถเปลี่ยนร่างและรวมร่างได้ 2 รูปแบบ และสามารถโจมตีศัตรูได้ทั้ง 2 รูปแบบ
เป็นเรื่องแรกที่มีหุ่นยนต์ตัวที่ 3 ออกมาช่วยเหลือนักรบอีกด้วย
เป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ยักษ์สามารถเปลี่ยนเป็นปืนใหญ่สำหรับหุ่นยนต์รวมร่างขนาดยักษ์ ได้
Zyurangerเป็นเรื่องแรกที่ใช้คอนเซ็ปท์ไดโนเสาร์ มาใช้
เป็นครั้งแรกที่รวมแมชชีนขนาดยักษ์ทั้งหมด เป็นหุ่นยนต์ตัวเดียวกัน แมชชีน 7 เครื่อง
เป็นครั้งแรกที่มีการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อไปฉายในเมกาโดยใช้ชื่อว่าพาวเวอร์เรนเจอร์ และในขณะเดียวกันทางสหรัฐอเมริกาก็ได้ปรับเนื้อหาของเซนไท จนไม่มีเค้าเดิม (หรือง่ายๆคือ เละกว่าเดิม นั่นเอง)
และเรื่องแรกที่กลับมาใช้นักรบคนที่ 6 อีกครั้งอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับขบวนการนักสู้ในยุคต่อไป
Dairangerเป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ตัวที่ 1 เกิดจากการวมร่างของหุ่นยนต์ตัวเล็ก (เปลี่ยนร่างได้) กับแมชชีนทั้ง 4
เป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ยักษ์สามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์ธรรมดาได้
Kakurangerเป็นเรื่องแรกที่ผู้นำทีมเป็นผู้หญิง
เป็นเรื่องแรกที่ชิ้นส่วนของสีแดงไม่ได้อยู่ที่ส่วนหัวหรือลำตัว (แต่กลับไปอยู่ที่แขนขวา แทน)
เป็นเรื่องแรกที่นักรบทั้ง 5 ขยายร่างเป็นชิ้นส่วนหุ่นยนต์
เป็นเรื่องแรกที่กลับมาใช้ตอนพิเศษโดยใช้ชื่อว่า Super Sentai World
Ohrangerสีทอง ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก (แต่มาในชุดสีดำ)
เป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์ตัวที่ 2 มีคนบังคับหลักเป็นสีแดง (ตามปกติ หุ่นตัวที่ 2 มักจะเป็นประเภทบังคับด้วยกันทั้ง 5 คน)
เป็นเรื่องแรกที่กลับมา Crossover อีกครั้งและหลังจากชุดนี้ก็มีการ Crossover กันต่อไปจนถึงปัจจุบัน
ครบรอบ 20 ปี การแพร่ภาพออกอากาศของขบวนการนักสู้ โดยมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลครั้งใหญ่ โดยนับโกเรนเจอร์และแจ็คเกอร์เข้าเป็นสมาชิกของขบวนการนักสู้
Carrangerเป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ทั้ง 2 ตัวสามารถเปลี่ยนอะไหล่ที่แขนและขาได้
เป็นเรื่องแรกที่ตัวละครเสริมมีหุ่นยนต์
Megarangerเป็นเรื่องแรกที่ฐานทัพลับไปอยู่บนอวกาศและซ่อนตัวในดวงจันทร์
สีเงิน ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก
Gingamanเป็นเรื่องแรกที่มีการนำเกราะเสริมมารวมเป็นพาหนะเอาไว้พิฆาตศัตรูได้
GoGoVเป็นเรื่องแรกที่มีหุ่นยนต์รุ่นพิเศษ"Black version" ปรากฏตัว (ตามปกติ มักจะมาในรูปแบบของเล่นเสียมากกว่า)
เป็นเรื่องแรกที่ห้องบังคับหุ่นสามารถบรรจุนักรบได้มากถึง 10 คน
Timerangerชื่อseries "Super sentai series" ได้ปรากฏตัวครั้งแรก
เป็นเรื่องแรกที่มีสีแดงปรากฏตัวพร้อมกันถึง 2 คน
เป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ตัวที่ 1 สามารถแปลงร่างได้ 3 รูปแบบ
Gaorangerเป็นเรื่องแรกที่มีพาหนะขนาดยักษ์ (ในคราบสัตว์ยักษ์) มากถึง 100 ตัว ด้วยกัน
หุ่นยนต์ของเล่นจากเรื่องนี้ สามารถประกอบร่างกันได้ถึง 32,040 แบบ
Hurricanegerเป็นเรื่องแรกที่นำหุ่นยนต์ทั้ง 3 ตัว รวมร่างเป็น 1 ได้
สีแดงเข้มและสีกรมท่า ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก
และเรื่องแรกที่มีนักรบไม่ปรากฏโฉมหน้าที่แท้จริง (ชูริเคนเจอร์)
เป็นเรื่องแรกที่ใช้ที่ชื่อขบวนการ เป็นคำว่า "Ger"
Abarangerเป็นเรื่องแรกที่สีแดงได้รับการเพิ่มพลังและได้ชุดเกราะเพียงคนเดียว
มีการเปลี่ยนมาตรฐานหุ่นยนต์ยักษ์ จาก 56-60 เมตร เป็น 48-49 เมตร แทน (และใช้มาจนถึงปัจจุบัน)
Dekarangerเป็นเรื่องแรกที่มีนักรบปรากฏตัวถึง 10 คน
เป็นเรื่องแรกที่ผู้หญิงเป็นสีทอง สีส้ม และสีเงิน
เป็นเรื่องแรกที่เอาปืนใหญ่มาแปลงเป็นชุดเกราะเสริมได้
เป็นเรื่องแรกที่พาหนะขนาดยักษ์เป็นมอเตอร์ไซต์ (และสามารถรวมร่างกับหุ่นตัวที่ 1 หรือเปลี่ยนร่างเป็นหุ่น ได้)
Magirangerเป็นเรื่องแรกที่นักรบคนที่ 6 ปรากฏตัวตั้งแต่ตอนแรก
เป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์ตัวที่ 1 เกิดจากการขยายร่างของนักรบทั้ง 5 คน
Boukengerเป็นเรื่องแรกที่นำพาหนะขนาดยักษ์ทั้ง 10 ลำ มารวมร่างเป็น 1 ได้
เป็นเรื่องแรกที่เหล่าร้าย มีมากกว่า 1 กลุ่มตั้งแต่เริ่มเรื่อง และเหล่าร้ายไม่ได้ร่วมมือกัน
เป็นเรื่องแรกที่หุ่นยนต์สามารถเปลี่ยนร่างเป็นเรือรบ (ลอยน้ำ) ขนาดยักษ์ได้ (ซึ่งในอดีตจะมีแต่เรือดำน้ำ ไม่ได้มีเรือรบที่ลอยเหนือผิวน้ำได้)
Gekirangerเป็นขบวนการแรกที่นักรบไม่มีเข็มขัดติดตั้งที่เอว
นักรบสีม่วง ได้รับการบรรจุเป็นนักรบอย่างเป็นทางการ (หลังจากที่เคยปรากฏในเฮอร์ริเคนเจอร์และมาจิเรนเจอร์ มาแล้วแต่ไม่ได้จัดอันดับเนื่องจากมีการเปลี่ยนสีนักรบกระทันหัน)
เป็นเรื่องแรกที่มีเพลงปิด (Ending song) มากถึง 8 เพลงด้วยกัน
Go-ongerเป็นเรื่องแรกที่นำหุ่นยนต์ทั้ง 4 ตัว รวมร่างเป็น1ได้
เป็นเรื่องแรกที่นำพาหนะขนาดยักษ์ทั้ง 12 ลำ มารวมร่างเป็น 1 ได้ (โดยก่อนนั้นเคยปรากฏในโบเคนเจอร์ แต่เนื่องจากเป็นมุขตลกท้ายรายการจึงไม่ได้จัดอันดับเอาไว้)
เป็นเรื่องแรกที่มีเพลงปิด (Ending song) มากถึง 10 เพลงด้วยกัน และ เมื่อแบ่งเป็นเวอร์ชันที่ฉายทางทีวีจะได้ทั้งหมด 18 เวอร์ชัน ใน 10 เพลง
Shinkengerเป็นเรื่องแรกที่รายชื่อนักแสดงหลักและภาพนักแสดงหลักในฉาก Openning ไม่มีความสัมพันธ์กัน(ภาพไม่ตรงกับชื่อนักแสดง)
เป็นเรื่องแรกที่มีการนำตัวอย่างที่จะฉายในตอนต่อมา มารวมเข้าไว้กับเพลง Ending
เป็นเรื่องแรกที่มีการ Crossover และผนวกเรื่องราวระหว่างขบวนการนักสู้และมาสค์ไรเดอร์อย่างจริงจัง รวมไปถึงปรากฏในเนื้อหาหลักของทีวีซีรีส์ (โดยก่อนนั้นเคยปรากฏในช่วงของซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ ปี 2006 แต่เนื่องจากเป็นมุขตลกท้ายช่วงรายการจึงไม่ได้จัดอันดับเอาไว้)
เป็นเรื่องแรกที่มีนักรบสีแดงเป็นผู้หญิง
เป็นเรื่องแรกที่ห้องบังคับหุ่นยนต์สามารถบรรจุนักรบได้มากถึง 13 คน
เป็นเรื่องแรกที่มีผูกเนื้อเรื่องให้มีการปรากฏตัวของสมาชิกทั้ง 3 ขบวนการ (โกออนเจอร์ , ชินเคนเจอร์ , โกเซย์เจอร์) พร้อมกันและมีจำนวนสมาชิกครบทุกคน(ที่ปรากฏตัวในขณะนั้น) ในฉบับโรงภาพยนตร์
เป็นเรื่องแรกที่มีการปรากฏตัวของนักรบมากที่สุดถึง 18 คน
Goseigerเป็นเรื่องแรกที่ใช้การ์ดเกมในการต่อสู้และเรียกแมชชีน
เป็นเรื่องแรกที่มีการปรากฏตัวในฉบับโรงภาพยนตร์ ก่อนการออกอากาศทางโทรทัศน์
Gokaigerเป็นเรื่องแรกที่ใช้คอนเซ็ปท์ โจรสลัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น